Flow State – กุญแจสำคัญของ Time Management ที่มีประสิทธิภาพ

หากเราเคยดูภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Soul จาก Pixar ในเรื่องจะมีการนำ Flow State มานำเสนอให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย โดยในเรื่องนั้นเหล่าผู้คนที่มีชีวิตอยู่สามารถเชื่อมต่อกับมิติวัฏสงสารได้เมื่ออยู่ใน Flow State เท่านั้น

เรื่องนี้มันมีนัยยะอะไรรึเปล่า?

Flow State เป็นคำที่นิยามขึ้นมาโดยชิคเซนมิฮายล์ (Csikszentmihalyi) อดีตศาสตราจารย์ทางด้านจิตวิทยาและการบริหาร หัวหน้าภาคจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา โดยคำนิยามของ Flow State ก็คือ

“In positive psychology, a flow state, also known colloquially as being in the zone, is the mental state in which a person performing some activity is fully immersed in a feeling of energized focus, full involvement, and enjoyment in the process of the activity.”

กล่าวง่ายๆ คือเมื่อเราอยู่ใน flow นั้น จิตของเราจะอยู่ในสภาวะที่มีสมาธิอย่างเต็มที่กับสิ่งที่ทำ เราจะรู้สึกมีพลัง รู้สึกมีส่วนร่วม เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสิ่งที่ทำอยู่ ประสาทสัมผัสทั้งห้าจะตอบสนองดีขึ้นต่อเหตุการณ์รอบตัว การรับรู้ (perception/awareness) และการกระทำ (action) จะสัมพันธ์กัน (in-sync) และมีการตอบสนองที่ไว รู้ตัวตลอดเวลา กาลเวลาจะไม่ไหลไปตามกฏการไหลของเวลาในสถานการณ์ปกติ

ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าเคยทำอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกว่าได้พลังจากมันมากๆ สนุกจนไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยและเวลาผ่านไปเร็วมากๆ ไหมครับ? เป็นไปได้ว่านั่นคือตัวอย่างของเหตุการณ์ที่จิตของเราอยู่ใน flow

นักกีฬาเก่งๆ ศิลปินดังๆ นักปฏิบัติธรรมที่เก่งๆ และคนที่เก่งกาจมากมายทั่วโลกจะสามารถเข้ามาอยู่ใน flow นี้ได้เป็นประจำ

งานวิจัยของ McKinsey กล่าวว่าผู้บริหารระดับ Top Executive สามารถมี productivity มากขึ้นถึง 500% เมื่ออยู่ใน flowนึกง่ายๆ ก็คือถ้าคุณอยู่ใน flow state ได้แค่วันเดียว คุณสามารถสร้างผลลัพธ์ได้เหมือนคุณทำงานทั้งอาทิตย์เลยทีเดียว( https://link.medium.com/QXWg8UG6Hcb) นอกจากนี้ยังมีอีกหลายงานวิจัยยืนยันว่ากลุ่มคนที่มีความสุขมากๆ คือกลุ่มคนที่มักจะสามารถหากิจกรรมที่จะเข้าสู้ flow state ได้ในชีวิตประจำวันของตัวเอง

อ่านถึงตรงนี้อาจจะเริ่มมีคำถามแล้วว่า แล้วเราจะเข้า flow state ได้ยังไงกันล่ะเนี่ย?

ชิคเซนมิฮายล์กล่าวว่าคนเราจะเข้าสู่ flow ได้จากการทำกิจกรรมอะไรก็ได้นั่นแหละ แต่ส่วนใหญ่จะต้องเป็นกิจกรรมที่เชื่อมต่อกับจิตวิญญาณหรือความหมายข้างในตัวเรา..ทีนี้เงื่อนไขอีกข้อก็คือ กิจกรรมนั้นจะต้องเป็นกิจกรรมที่มีความท้าทายที่มากพอ แต่ไม่ยากจนเกินทักษะหรือประสบการณ์ของเรา เพราะถ้ามากเกินไปมันจะกลายเป็น Anxiety หรือความวิตกกังวลแทนได้ (อิงตามรูปด้านล่าง)

หากคุณอยากทำ Time Management ให้ดีขึ้น อาจจะลองศึกษาหรือค้นหากิจกรรมที่สามารถทำให้เราอยู่ใน Flow ได้มากขึ้น จะได้มี Productivity ที่ดีขึ้นและชีวิตก็จะมีความสุขมากขึ้นด้วย

Categories: Blogs

0 Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *